วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การเลี้ยงกบคอนโด



การเลี้ยงกบคอนโด คือการการเลี้ยงกบใน ยางรถยนต์นั้นเอง


การเลี้ยงกบคอนโด นับว่าเป็นช่องทางทำกินอีกช่องทางหนึ่ง ทีสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรชาวบ้านได้เป็นอย่างดี กบคอนโดมีมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นเลย อย่างเช่น ปลา ผู้ที่มีอาชีพการเกษตรบางท่านอาจจะยังไม่รู้ หรือบุคลทั้วไป แม้แต่ชาวบ้านเราเองวันนี้ โอ้โห MakeMoneY ได้เอาวิธีการเลี้ยงกบคอนโดมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน และไม่จำเป็นจะต้องเป็นชาวเกษตรเท่านั้น ที่จะเลี้ยงกบนี้ได้ แต่บุคลทั้วไป ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำก็สามารถทำอาชีพนี้ได้ง่าย ๆ สบาย ๆ พื้นที่ใช้ในการเลี้ยงกบก็ไม่มาก สะดวกไม่ต้องขุดสระ สามารถเลี้ยงในบริเวณรอบ ๆบ้านได้เลย นับว่าเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับคุณเป็นอย่างดี ขั้นตอนแรก เรามาดูกันเลยว่าจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง

วีดีโอคอนโดเลี้ยงกบแบบประยุกค์





วัสดุอุปกรณ์ในการเลี้ยงกบคอนโด

1. ยางรถ (ขนาดของยางรถต่อจำนวนกบที่เลี้ยง รถแทรกเตอร์ เลี้ยงได้100 ตัว,ขนาด รถ 10 ล้อ เลี้ยงได้ 50 ตัว,ขนาด 6 ล้อ เลี้ยงได้ 30 ตัว,ขนาด 4 ล้อเลี้ยงได้ 20 ตัว)
2. ทรายหยาบ
3. ตะแกรง
4. กบพันธุ์
5. ปูนขาว
6. อาหารปลาดุก
7. ถาดวางอาหาร

วิธีการเลี้ยงกบคอนโด

1. เริ่มต้นด้วยการหาพื้นที่เลี้ยงกบ(แสงแดดส่องรำไร)
2. ใช้ทรายหยาบถมหนาประมาณ 6 นิ้ว
3. เสร็จแล้วให้ใช้ตะแกรงรองพื้น
4. แล้วเทหินเกล็ดทับตะแกรง หนาประมาณ 3 นิ้ว
5. วางคอนโด (ยางรถ 3 เส้น ซ้อนทับขั้นไป)
6. ปล่อยกบลงในยางรถ
7. นำตะแกรงปิดปากคอนโดของกบ ด้านบน เพื่อป้องกันกบกระโดดออกไป

อาหารกบและการให้อาหาร

1. ใช้อาหารปลาดุกเม็ดใหญ่ ให้กบกินทุกเช้า เย็น โดยวางอาหารไว้ในถาดด้านล่างคอนโด
2. อาหารเสริมเป็นผักบุ้งหั่นฝอย ให้กิน ทุก 2 วัน/ครั้ง
3. ใส่น้ำ 2 คอนโด (ชั้นที่ 1 และ 2) ถ่ายน้ำทุก 3 วัน
4. ล้างหินและอุปกรณ์ให้สะอาด ล้างด้วยจุลินทรีย์ผลไม้
5. ใช้ไฟส่อง ล่อแมลงให้กบกิน เป็นอาหารเสริม
6. เลี้ยงไปประมาณ 20 วัน ให้แยกขนาดกบเล็ก-ใหญ่

พันธุ์กบที่นำมาเลี้ยง

กบที่ควรนำมาเลี้ยงเป็นกบคอนโด เป็นกบพันธุ์ โดยสามารถติดต่อซื้อได้ที่เกษตรกร โรงเรียนบ้านกาศประชานุเคราะห์ หรืออาจารย์นิคม จิตมณีธรรม เบอร์โทร.0-5462-0510หรือ 089-7572766 หรือหน่วยงานเกษตรจังหวัดของตนเอง

ระยะเวลาการเลี้ยงกบ

จะอยู่ที่ประมาณ 60 วันหรือมากน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลของเกษตรเอง โดยทั้วไปแล้วการเลี้ยงกบจะใช้เวลา 2 เดือนเท่านั้น

ข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยงกบคอนโด

ข้อดี
1. เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่จำกัดได้ดี และดีกว่าการเลี้ยงแบบใส่ขวดพลาสติก
2. ลงทุนต่ำ กว่าเลี้ยงในบ่อปูน
3. ให้อาหารกบได้ง่ายและทั่วถึง ไม่เปลืองอาหาร
4. ควบคุมโรคได้ง่าย ถ่ายน้ำสะดวก และใช้น้ำน้อยกว่า
5. เหมาะกับผู้เริ่มทดลองเลี้ยงเพื่อศึกษา ไม่หวังผลกำไร
ข้อเสีย
1. ยากต่อการสังเกตและดูแล หากเลี้ยงในปริมาณมากๆ
2. ไม่เหมาะกับการเลี้ยงจริงจังเชิงพาณิชย์ ที่ต้องมีปริมาณผลผลิตต่อเดือนสูง
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
http://www.obobfarm.com/FrogFarm/?p=36
http://www.kasetonline.com/?p=19
http://www.nicaonline.com/webboard/index.php?topic=4974.msg5886
http://www.coastalaqua.com/webboard/index.php?topic=1547.0
http://www.kingdomplaza.com/article/file/frogcondo.pdf

วิธีทำแกงมัสมั่นไก่


วิธีทำแกงมัสมั่นไก่ อาหารที่ทุกคนรู้จักเพิ่มช่องทางสร้างรายได้

แกงมัสมั่น เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ใครหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีซึ่งจะมีรสชาติเผ็ดมัน แกงมัสมั่นเดิมเป็นอาหารที่มาจากมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงนี้ว่า “ซาหละหมั่น”  ซึ่งแต่ละภาคก็จะมีการทำแกงมัสมั่นแตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นชาวมุสลิมปักษ์ใต้จะมีวิธีการปรุงที่แตกต่างจากภาคกลาง และแกงมัสมั่นนี้ ถ้าใครที่ต้องการทานเนื้อ หมู หรือไก่ เราก็สามารถนำสูตรมาดัดแปลงและลองทำดูได้ไม่อยากเลยทีเดียว ส่วนใครยังไม่เคยลองทำ วันนี้ ohomakemoney.com ได้นำสูตรและวิดีโอการทำแกงมัสมั่นมาให้ทุกท่านได้ลองกลับไปทำดูกันที่บ้านแบบง่ายๆ และยังช่วยสร้างเสริมอาชีพการทำอาหาร เพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้อีกทางเลือกนึง

เครื่องปรุงที่ต้องเตรียมมีดังนี้

1. ไก่บ้านควักเครื่องในออก สับเป็นชิ้นกำลังดี 1 ตัว
2. หอมหัวใหญ่หรือหัวเล็กปอกเปลือก 10 หัว
3. มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมกำลังพอดี 20 ชิ้น
4. กะทิสำเร็จรูป 2 กล่อง
5. ถั่วลิสงถั่ว ½ ถ้วยตวง
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
8. เครื่องปรุงรส รสไก่ ชนิดผง 2 ช้อนชา
9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
11. ลูกกระวาน
12. ใบกระวาน

ส่วนผสมน้ำพริกเครื่องแกงมัสมั่น

1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ แกะเอาเมล็ดออก แช่น้ำจนนิ่ม บีบเอาน้ำออก 15- 20 เม็ด
2. ตระไคร้ซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
3. หอมแดงปลอกเปลือก 5 หัว
4. กระเทียมหัวเล็กแกะเปลือก 2 หัว
5. ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 3 แว่น
6. เม็ดพริกไทยล่อน 15 เม็ด
7. รากผักชีหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 ช้อนโต๊ะ
8. เม็ดผักชีคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
9. ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา
10. ลูกกระวาน 5 ลูก
11. ใบกระวาน 5 ใบ
12. กานพลู 5 ดอก
13. อบเชยคั่วป่น 1 ช้อนชา
14. ลูกจันทน์คั่วป่น ½ ช้อนชา
15. ดอกจันทน์คั่วป่น ½ ช้อนชา
16. กะปิห่อใบตองเผาไฟ 1 ช้อนชา
17. น้ำมัน

วิธีปรุงน้ำพริกเครื่องแกง

จัดการโขลกน้ำพริกเครื่องมัสมั่นให้ละเอียดตามเครื่องปรุงและส่วนผสมข้างตันนี้แล้วพักเอาไว้เพื่อแกงต่อไปตามกรรมวิธี วิธีปรุงไก่บ้านทำเรียบร้อยแล้ว เตรียมแกงได้ทันที น้ำพริกแกงมัสมั่นโขลกละเอียดสดๆ หอมกรุ่น มันฝรั่งหอมใหญ่ปอก หั่น เตรียมแกงได้ ทุกอย่างพร้อมสรรพ การปรุงแกงมัสมั่นเริ่มต้นได้ทันที เอากระทะขึ้นตั้งบนเตาไฟ เอาน้ำมันพืชใส่ลงไป 3 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันพืชร้อนก็เอาน้ำพริกเครื่องแกงมัสมั่นใส่ลงไปผัดให้หอมกรุ่น ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เครื่องปรุงรสรสไก่ชนิดผง ถั่วลิสงคั่ว ผัดไปมาแล้วเอากะทิใส่ลงไป 1 กล่อง คนให้ทั่วถึงกันใส่ลูกกระวานที่ทุบแตกแล้วลงไปใส่ใบกระวาน ใส่ไก่บ้านสับเป็นชิ้น ลงไปเคี่ยวด้วย ใส่มันฝรั่ง ใส่กะทิลงไปอีก 1 กล่องแล้วเคี่ยวต่อ ใส่หอมหัวใหญ่ที่เป็นหัวเล็กๆ ลงไปอีกอย่างหนึ่ง เคี่ยวไปเรื่อยๆ ไก่จะเปื่อยกำลังดี ลองชิมดูให้ออกรสเค็ม หวาน เปรี้ยวเล็กน้อย อ่อนอะไรก็เติมอีกได้จนพอดีก็ใช้ได้ ตักใส่หม้อแกงเอาไว้เสิร์ฟได้ทันที ตักใส่ชามแกงหรือราดข้าว เป็นแกงมัสมั่น ที่หากินได้ยากมากเพราะร้านข้าวแกงมักจะไม่ค่อยแกงขายกันแล้ว
วีดีโอวิธีทำแกงมัสมั่นไก่
ขอบคุณเจ้าของคลิป foodtravel.tv คุณสามารถเข้าไปดูเพื่มเติมได้อีกที่ :: http://www.youtube.com/user/MrFoodandTravel

ขนมไข่นกกระทา


ขนมไข่เต่า,ขนมไข่นกกระทา อาชีพเสริมช่วงเทศกาล


ขนมไข่เต่า
เก็บตกจากเทศกาลดนตรี music festival ที่ผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ผมเห็นว่าอาชีพนี้น่าจะเป็นช่องทางที่จะสามารถนำมาเป็นอาชีพเสริมได้ไม่ยาก สำหรับช่วงเทศกาลต่างๆ ในท้องถิ่น น่าจะดีไม่น้อยถ้าเราจะมีอาชีพเสริมช่วงเทศกาลนี้  ขนมไข่เต่า หรือบางท่านอาจจะเรียกขนมไข่นกกระทาทอดกรอบ ซึ่งเป็นขนมดั้งเดิมมีรสชาติอร่อย กรอบ หวาน มัน และเป็นขนมที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี
อาชีพขายขนมไข่เต่านั้นเป็นอาชีพที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลยครับ สำหรับบางท่านที่ลงทุนขายแบบรถมอเตอร์ไซต์พ่วง ก็สะดวกและขายง่ายมากๆ เพราะจะสามารถตระเวนไปได้ทุกที่ หรือเมื่อมีงานเทศกาลต่างๆ เราก็จะสะดวกและรวดเร็วกว่าการตั้งขายแบบหน้าร้านครับ เพราะผมไปเจอมาหลายเจ้าที่ขายแบบรถมอเตอร์ไซต์ต่อพ่วง ผมได้ลองสอบถามคุณลุงคนหนึ่งที่ขายขนมไข่เต่าทอดกรอบว่าขายดีมั้ย ลุงตอบว่าขายดีมากยิ่งช่วงหน้าเทศกาลลุงขายดีเป็นสองถึงสามเท่าเพราะลูกค้าบางคนหารับประทานยาก พอมาเจอขนมไข่เต่านี้จึงอุดหนุนกันเยอะมาก แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลลุงก็จะไปจอดแวะขายตามหน้าตลาดนัดและเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ จนหมดทุกวัน คุณลุงยังบอกอีกว่าขายขนมไข่เต่าทอดกรอบหรือขนมไข่นกกระทานี้มาหลายปีแล้ว ถึงรายได้จะไม่ได้มากมายอะไรแต่ก็เป็นอาชีพที่สามารถหล่อเลี้ยงครอบครัวของคุณลุงมาได้จนถึงทุกวันนี้

ส่วนผสมขนมไข่เต่า , ขนมไข่นกกระทา

1. แป้งมัน
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์
3. น้ำตาลทราย
4. หัวกะทิ
5. เกลือป่น
6. มันเทศ 1 หัว
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. ผงฟู

วิธีทำขนมไข่เต่า, สูตรขนมไข่นกกระทา

ขั้นตอนและวิธีการทำขนมไข่เต่า
-  นำมันเทศมาปลอกเปลือก และล้างในน้ำให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งให้สุก
-  พอได้มันเทศนึ่งสุกแล้วให้นำมาบดให้ละเอียด แล้วผสมแป้งมันลงไปแค่ครึ่งหนึ่งของมันเทศ จากนั้นก็นำแป้งสาลีใส่ลงไป 1/3 ส่วนของแป้งมัน
- นำไข่ที่เตรียมไว้ และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงแล้วใส่ลงไปรวมกันกับมันเทศบดและแป้งที่ผสมไว้แล้ว
- ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปเล็กน้อย
- นวดแป้งและส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน และให้ใส่หัวกะทิลงไปตอนนวดแป้งทีละน้อย นวดจนให้สามารถจับปั้นได้
- ใส่ผงฟูลงไป 1 ช้อนชา พักแป้งที่นวดกับมันเทศไว้ครึ่งชั่วโมง และนำมาปั้นเป็นเม็ดกลมขนาดเท่าไข่นกกระทา
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันเดือดได้ที่ แล้วใส่ไข่นกกระทาหรือไข่เต่าที่ปั้นไว้ลงไปทอด
- ใช้ตะแกรงกดขนมระหว่างทอด เพื่อให้ฟูขึ้น ทอดให้เหลือง กรอบ จากนั้นตักขึ้นจากน้ำมัน รอให้สะเด็ดน้ำมัน ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน
หมายเหตุ : บางท่านอาจจะไม่ต้องใช้ไข่ไก่ในการทำขนมไข่เต่านี้ก็ได้ และถ้าใครไม่ชอบมันเทศก็สามารถเปลี่ยนมาเป็น เผือก ฟักทอง หรือมันสำประหลังแทนก็ได้ แล้วแต่ความชอบหรือบางท่านอาจจะทำแบบสอดไส้ถั่ว เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น และสัดส่วนของเครื่องปรุงและส่วนผสมนั้นแล้วแต่ว่าเราจะทำขนมไข่เต่ามากน้อยเพียงใด และสามารถตักตวงส่วนผสมได้ตามชิ้นส่วนของมันที่นำมาใช้ในการบดครับ

ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู


ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู วิธีทำก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดียวมีครบทุกสารอาหาร

ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู
ก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารที่รู้จักกันมาแต่ช้านานตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวกันมาเป็นช่วงการติดต่อค้าขายกันระหว่าง ไทย-จีน ซึ่งชาวจีนนำสินค้ามาขายที่ไทยก็ได้นำก๋วยเตี๋ยวมากินเป็นอาหารด้วยทำให้ไทยเรานำก๋วยเตี๋ยวมารับประทานและก็เป็นที่นิยมกันในที่สุดจนมาถึงปัจจุบัน รู้กันหรือไม่ว่าก๋วยเตี๋ยวนั้นมันมีประโยชน์อะไรบ้าง นั้นก็คือ มีคุณค่าทางโภชนาการ เกือบครบ 5 หมู่ นั้นเอง

เครื่องปรุงและส่วนประกอบก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู

น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกป่น พริกกระเทียมน้ำส้มดอง
ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู
ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู
เนื้อหมู1/2 กก.
ตับหมู300 กรัม
ลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเอ็นหมู1/2 กก.
เส้นก๋วยเตี๋ยว (ใหญ่ เล็ก หมี่)ตามชอบ
ถั่วงอก1/2 กก.
ผักบุ้งหั่นเป็นท่อน1/2 กก.
ต้นหอมผักชีหั่นฝอย100 กรัม
กระดูกเอียวเล้ง (กระดูกสันหลังหมู)1 กก.
อบเชย1 ช้อนโต๊ะ
โป้ยกั๊ก3 ดอก
ข่าทุบ1 เหง้า
กระเทียมบุบพอแหลก10 กลีบ
ผงพะโล้1 ซอง
น้ำตาลกรวดก้อน100 กรัม
ซีอิ๊วดำ2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น1 ช้อนชา
เลือดหมูสด1 ถ้วย

วิธีทำก๋วยเตี๋ยว

1. ล้างกระดูกเอียวเล้งให้สะอาด นำลงแช่ในน้ำเย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
2. เติมอบเชย โป๊ยกั๊ก ข่าทุบ กระเทียมบุบ ผงพะโล้ นำขึ้นตั้งไฟกลางพอเดือดลดไฟลงเคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ น้ำตาลกรวด เกลือป่น ชิมรสตาชอบ
3. หั่นเนื้อหมู ตับหมูเป็นชิ้นพอคำ นำไปลวกในน้ำเดือดจัดพอสุก ใส่ชามพักไว้ ลูกชิ้นลวกน้ำร้อนให้สุก ชิ้นขึ้นพักไว้
4. ต้มน้ำสะอาดด้วยไฟแรงจัด พอน้ำเดือดลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอก ผักบุ้ง ใส่ลงในชาม ใส่เนื้อหมู ตับหมู ลูกชิ้น ตักเลือดหมูสดเล็กน้อยด้วยทัพพีลงลวกในน้ำซุปเดือดจัดๆ พร้อมตักน้ำซุปราดลงในชามก๋วยเตี๋ยว โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีหั่นฝอย
5. เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้

วิดีโอ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ก๋วยเตี๋ยวเรือ

คุณสามารถเข้าไปดูเพื่มเติมได้อีกที่ :: http://www.youtube.com/user/MrFoodandTravel

ยำมะม่วงปูม้า สุดยอดอาชีพทำเงินที่ทุกท่านควรรู้จัก


“เส้นทางอาชีพ” ยำมะม่วงปูม้า สุดยอดอาชีพทำเงินที่ทุกท่านควรรู้จัก

ยำมะม่วงปูม้า เป็นอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมกันมากในช่วงนี้ รสชาติของปูม้าสดๆ ผสมกับมะม่วงน้ำดอกไม้อมเปรี้ยวมัน คลุกเคล้ากับน้ำราดสูตรพิเศษ และเพิ่มพริกป่นลงไปยิ่งทำให้ยำมะม่วงปูม้ามีรสจัดจ้าน แซ่บเพิ่มขึ้นอีกนอกจากนี้ยังมียำปูม้า และยำมะม่วงสูตรเด็ดรวมอยู่ด้วยลูกค้าสามารถสั่งได้ตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน บางคนติดอกติดใจถึงขั้นต้องสั่งพิเศษถุงเดียว 100 บาทเลยทีเดียว ซึ่งปกติขายเพียงถุงละ 40 บาทเท่านั้นเอง
อาชีพยำมะม่วงปูม้า
ยำมะม่วงปูม้า พี่เอก@พัทยา
ทางทีมงาน “ www.ohomakemoney.com ” ของเราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ร้านยำมะม่วงปูม้าร้านนึง ซึ่งเป็นเพียงร้านเล็กๆ เป็นรถมอเตอร์ไซต์ต่อพ่วงเพื่อขายยำมะม่วงปูม้า แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าลูกค้าที่มาอุดหนุน เยอะมากจนเราตกใจ เพราะลูกค้าบางท่านมารอนานเป็นชั่วโมงแต่ก็ไม่มีใครยอมลุกหนี มีแต่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวเราซะทีนะ (ทีมงานยังต้องรอนะค่ะ) เมื่อได้โอกาสเราจึงได้สอบถามเจ้าของร้านยำมะม่วงถึงความเป็นมาและจุดเริ่มต้นของอาชีพนี้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายๆ ว่าทำอย่างไรกันบ้าง

เจ้าของร้านยำมะม่วงปูม้า @พัทยา

ลูกค้ายำมะม่วงปูม้าเจ้าของร้านชื่อคุณ สุนทร  หรือเรียกชื่อเล่นว่า พี่เอก ทีมงานของเราจึงได้สอบถามเกี่ยวกับความเป็นมาของร้าน พี่เอกตอบกับทีมงานเราว่า พี่เอกเป็นคนจังหวัดชัยนาท ก่อนจะมาประกอบอาชีพนี้พี่เอกเคยเป็นเทรนเนอร์มาก่อน อยู่มาเกือบสิบปีแต่ก็ต้องมีเหตุให้พี่เอกต้องออกจากงาน เลยหันมาศึกษาเกี่ยวกับการทำยำมะม่วงปูม้า เพราะเล็งเห็นว่ายังไม่ค่อยมีใครขายเราน่าจะบุกตลาดได้เพราะลูกค้าบางท่านยังไม่เคยชิมมาก่อน ตอนนี้มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรที่มาอุดหนุนจนหมดทุกวัน  ลูกค้าบางท่านอาจจะโทรมาสั่งจองคิวไว้ล่วงหน้าเพราะกว่าจะได้ทานต้องรอคิวนานมาก ลูกค้ามีทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาอุดหนุน พี่เอกยังบอกอีกว่าเมื่อก่อนที่มาขายยำมะม่วงปูม้าครั้งแรก ขายได้น้อยมากเพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก พี่เอกต้องใช้ความพยายามและความอดทนขายต่อมาได้ประมาณสามเดือน ก็ปรากฏว่ามีลูกค้าที่เคยมาอุดหนุนและติดอกติดใจในรสชาติจนกลายเป็นที่ชื่นชอบ บอกต่อปากต่อปากจนทำให้ทุกวันนี้ร้านยำมะม่วงปูม้าของพี่เอกมีกำไรเพิ่มมากขึ้นและขายดิบขายดีจนถึงทุกวันนี้
น้ำราดยำมะม่วงปูม้าสูตรเด็ด กระปุกละ 200 บาทสูตรน้ำราดนี้เป็นปัจจัยสำคัญของยำมะม่วงปูม้าที่พี่เอกคิดขึ้นเองเป็นสูตรเด็ดเฉพาะ สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะขายยำมะม่วงปูม้าแต่ทำน้ำราดไม่เป็นพี่เอกยินดีขายส่งให้ทั้งในพัทยาและต่างจังหวัด และท่านใดสนใจอยากมีร้านขายยำมะม่วงปูม้าเป็นของตนเอง หากท่านยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ท่านสามารถติดต่อสอบถามพี่เอกได้ที่ เบอร์โทร 083-889-070-5  เพราะพี่เอกนอกจากจะขายยำมะม่วงปูม้าแล้วยังขายส่งน้ำราดสูตรเด็ดนี้ด้วย ราคาโหลละประมาณ 200 บาท หากท่านอยู่ต่างจังหวัดท่านสนใจอยากสั่งซื้อก็ลองติดต่อสอบถามกับพี่เอกได้นะค่ะ

เครื่องปรุงและส่วนผสมการทำยำมะม่วงปูม้า

1. หอมแดงซอย 2. ผักชีฝรั่งซอย 3. กระเทียมหั่นแว่น 4. กุ้งแห้ง 5. ปลากรอบ 6. ถั่วลิสงคั่ว 7. พริกขี้หนูสดหั่น 8.พริกป่น 9น้ำปลา 10. ผงชูรส 11. มะม่วงน้ำดอกไม้ 12. ปูม้าสด และลำดับสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยและเป็นหัวใจสำคัญของยำมะม่วงปูม้านั่นคือ น้ำราดสูตรเด็ด ที่พี่เอกคิดค้นเองเป็นเวลานานนับปีค่ะ
หมายเหตุ: พี่เอกตวงเครื่องปรุงและส่วนผสมในอัตราส่วนเท่าๆ กันใส่ถุงไว้ เมื่อถึงเวลายำพี่เอกจะนำส่วนผสมนั้นเทลงในภาชนะเลยทันที เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการตักตวงส่วนผสมในภายหลัง เพื่อความสะดวกรวดเร็วเวลาที่ลูกค้ามากันเยอะๆ จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ

วิธีทำยำมะม่วงปูม้า

ขั้นตอนการทำ
1. นำปูม้ามาล้างให้สะอาด และพลิกตัวปูดูที่ด้านหลังปูจะเจอตะปิ้ง ซึ่งอยู่ตรงกลางของกระดองให้แกะทิ้งไป เมื่อแกะตะปิ้งทิ้งแล้วให้ดูรอยต่อระหว่างตะปิ้งกับกระดองจะเห็นเป็นรอยแยกเล็กๆ เราจะชำแหละแทรกเข้าไปเพื่อแยกกระดองออกจากตัวปูนั่นเอง
2.นำมะม่วงน้ำดอกไม้ใส่ลงไปในภาชนะ หลังจากนั้นให้นำพริกขี้หนูสดหั่นใส่ลงไป หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย กระเทียมหั่นแว่น กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว และปลากรอบใส่ตามลงไปในภาชนะ
3. เมื่อนำส่วนผสมเทลงในภาชนะแล้ว ให้นำปูม้าสดใส่ลงไป และเติมพริกป่น ผงชูรส น้ำปลา และที่ขาดไม่ได้คือน้ำราดสูตรเด็ดนั่นเองค่ะ
4. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และชิมรสชาติของยำมะม่วงปูม้าดูว่ารสชาติถูกปากรึเปล่า หลังจากนั้นก็ตักใส่ชามและเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
หมายเหตุ: หากท่านต้องการทานรสชาติแบบไหนท่านสามารถกะตวงปริมาณของวัตถุดิบตามความชอบได้เลยนะค่ะ เพราะรสชาติหลักขึ้นอยู่กับน้ำราดที่เราทำขึ้นเองด้วยค่ะ

ต้นทุนในการเปิดร้านยำมะม่วงปูม้า

ต้นทุนในการเปิดร้านขายยำมะม่วงปูม้า พี่เอกบอกว่าลงทุนครั้งแรกลงทุนไม่เกิน 10,000 บาทก็สามารถเปิดขายได้ และส่วนของการลงทุนขายวันต่อวันนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าในแต่ละวันเราขายได้กำไรมากน้อยเท่าไหร่ หักลบแล้วก็ต้องนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อของเพื่อขายในวันถัดไป ลงทุนวันนึงก็ประมาณ 2,000 – 3,000 บาทต่อวัน
พี่เอกได้บอกกับเราอีกว่า กำไรในการขายยำมะม่วงปูม้าเดือนๆ นึง รับ 45,000-50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ต้องขายให้มะม่วงหมด 10 กิโลขึ้นไปนะค่ะ พี่เอกเตรียมของเสร็จก็ออกจากบ้านมาขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น ขายเสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่ม ขายแบบนี้ทุกๆ วัน และประกอบอาชีพนี้มานานกว่าสามปีแล้ว ซึ่งเป็นอาชีพที่สุจริตและสามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่อายใครเลยค่ะ
การขายยำมะม่วงปูม้า
ถ้าในวิกฤติเศรษฐกิจที่ปูม้าแพงหรือมะม่วงแพง อาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้แต่พี่เอกก็จะไม่ขึ้นราคาแต่อาจจะลดปริมาณลงเล็กน้อยเพื่อสอดคล้องกันกับช่วงข้าวของแพงแต่ก็ยังคงรสชาติอร่อยเช่นเดิม และการเลือกปูม้าว่าสดหรือไม่นั้นพี่เอกบอกว่าให้จับดูที่ใต้ท้องปูม้าว่าท้องมันแน่นหรือเปล่าและใช้ยางวงรัดไว้อีกที และปูม้าต้องยังมีชีวิตสดๆ เป็นๆ อยู่ ถึงจะเรียกว่าสดจริง และแต่ละวันของการขายถ้าปูม้าเหลือพี่เอกก็จะไม่นำกลับมาขายใหม่เพราะจะทำให้ปูม้าไม่สด เสียรสชาติและอาจจะเสียลูกค้าด้วย แต่ถ้ามะม่วงน้ำดอกไม้เหลือเราสามารถนำกลับมาขายได้ใหม่ประมาณสามวัน โดยใช้วิธีการเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อจะคงความสดของมะม่วงไว้ ลูกค้าบางท่านที่ซื้อยำมะม่วงปูม้าไปรับประทานบางท่านอาจจะทิ้งไว้ประมาณ 10 – 20 นาที เพื่อจะให้น้ำราดซึมเข้าไปในเนื้อมะม่วงจนทำให้มะม่วงนิ่มและเป็นการเพิ่มรสชาติไปอีกแบบนึง หรือบางท่านเมื่อซื้อไปอาจจะรีบแกะถุงและรีบกินเลยก็ได้



ขอบคุณ http://ohomakemoney.com

วิธีทำข้าวมันไก่


อาชีพทำเงิน และวิธีทำข้าวมันไก่ อาหารยอดนิยมที่รู้จักกันเป็นอย่างดี


ข้าวมันไก่ เป็นอาหาร ที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันดี ข้าวมันไก่ส่วนมากจะขายอยู่ตามย่านการค้า ตลาด แหล่งผู้คน ซึ่งเป็นอาหารจานเดียว ทานง่าย สะดวกที่จะรับประทานในช่วงเวลาเร่งรีบ และมีหลายคนที่ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้จนร่ำรวยกันเป็นว่าเล่น บางคนกินทุกวัน วันไหนไม่ได้กินแล้วรู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรสักอย่าง ดังนั้นวันนี้ทางเว็บ ohomakemoney.com จะมาแนะนำวิธีทำการทำและสูตรข้าวมันไก่ เพื่อสร้างรายได้กันครับ ข้าวมันไก่ทำไม่ยาก ถ้าสนใจทำ หัวใจของการการปรุงข้าวที่ดีให้มีรถชาติถูกใจคนกินนั้น ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ มีด้วยกันดังนี้
1. การปปรุงน้ำจิ้มข้าวมันไก่ให้ถูกปากคนกิน ในหัวข้อต่อไปมีบอกแต่ยังไม่ละเอียดพอนะครับ ลองเอาวิธีการทำมาลองทำกินแล้วดูว่าสูตรไหนเป็นตัวตนของเรามากที่สุด แต่ต้องถูกใจคนกินด้วยนะครับ
2. การต้มไก่ตอนหรือไก่บ้านให้ถูกต้อง ตรงนี้มีวิธีการต้มไก่บอกให้แต่ต้องไปฝึกฝนเอาเอง
3. การหุงข้าวให้อ่อนนุ่มละมุลถูกใจคนกิน นี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

วิธีทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่

ส่วนน้ำจิ้มข้าวมันไก่นันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนัก หลายร้านที่ทำขายแล้วต้องพังพินาศลงอย่างรวดเร็วก็เพราะน้ำจิ้มที่ไม่ได้รสชาติ ทำให้ผู้ที่มาอุดหนุนไม่มาอีกเลยเพราะน้ำจิ้มไม่อร่อยแต่คนที่ไม่เอาไปทำขายทำกินเองยังไงก็ได้ครับแต่จะให้ถูกปากละ ก็มีสูตรน้ำจิ้มข้าวมันไก่มาแนะนำอีกแล้วฏ็ลองทำดูนะ ทำจนกว่าจะรสชาติจะถูกปากเราแล้วนำไปให้เพื่อนบ้านญาติพี่น้องชิมดูสิว่าเป็นยังไง ทุกวันนี้การทำน้ำจิ้มไม่อยากเลยไม่ต้องตำพริกแบบเก่า ๆ แล้ว นำเครื่องปั่นผลไม้มาปั่นได้เลย หรือใครจะใช้แบบเก่าก็ได้ใช้ครกตำน้ำจิ้มเอานะ

ส่วนผสมเครื่องปรุง

1. ไก่ต้มสุก 1 ตัว ต้มประมาณ 1 ชั่วโมง
2. มันไก่
3. เต้าเจี้ยว
4. น้ำซุปไก่
5. เลือดไก่ต้มสุกรวมไปถึงเครื่องในไก่ต้มสุก
6. ข้าวหอมมะลิ
7. กระเทียม
8. เกลือ
9. น้ำตาล
10. น้ำส้มสายชู
11. ขิงหั่นแว่น
12. ซีอิ๋วดำ
13. พริก
14. รากผักชี
15. แตงกวา

วิดีโอการสาธิตสำหรับวิธีข้าวมันไก่



สูตรน้ำจิ้มข้าวมันไก่ วิธีทำข้าวมันไก่

ส่วนผสมสูต
  

   1.  เต้าเจี้ยว           สี่   ช้อนโต๊ะ
   2.  ขิงแก                สิบ   แว่น
   3.  พริกขี้หนูสด      สิบห้า   เม็ด
   4.  ซีอิ้วดำ             สอง   ช้อนชา
   5.  น้ำส้มสายชู      หนึ่งถึงสอง   ช้อนโต๊ะ
   6.  น้ำตาลทราย     หนึ่ง   ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่
      นำพริกขี้หนูสด ขิงแก่ โขลกรวมกันให้ละเอียด ใส่เต้าเจี้ยวพร้อมกับน้ำเต้าเจี้ยวด้วย คลุกเคล้าให้เม็ดเต้าเจี้ยวแตกละเอียด ใส่ส่วนผสมที่เหลืออยู่ทั้งหมด ชิมรส หากอ่อนรสใดก็เติมได้อีก



ขั้นตอนและวิธีปรุงสูตรข้าวมันไก่

ก่อนอื่นนำกระเทียมมาปั่นให้ละเอียด สำหรับกระเทียมเราจะใช้ทั้งหมด 2 ส่วน ใช้เพียงแค่อย่างละครึ่ง ที่เหลือเราจะนำไปทำน้ำจิ้ม พอปั่นกระเทียมละเอียดแล้ว นำมันไก่ไปเจียวในกระทะ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จะได้น้ำมันจากการเจียวมันไก่ และนำกากไก่ที่เจียวทิ้งไป และตักกระเทียมที่ปั่นละเอียดมาเจียวกับน้ำมัน ใช้ทัพพีกระจายกระเทียมให้ทั่วน้ำมัน สังเกตุสีกระเทียมที่นำไปเจียวว่าเหลืองพอรึยัง พอได้น้ำกระเทียมเจียวที่เจียวด้วยมันไก่เรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนการหุงข้าวมันไก่
หมายเหตุ :: น้ำต้มไก่ อย่าเอาทิ้งเด็ดขาดเลยให้ตั้งไฟเอาไว้ ยังสามารถนำมาหุงข้าวทำเป็นข้าวมันไก่ และยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำซุป สำหรับเสริฟพร้อมกับข้าวมันไก่ได้อีกด้วย
ขั้นตอนการหุงข้าวมันไก่ให้อ่อนนุ่มละมุล
นำข้าวสารใส่หม้อแล้วตักน้ำกระเทียวเจียวราดลงบนข้าวสาร ต่อจากนั้นใส่น้ำซุปลงไปในหม้อ และคนส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน เมื่อได้ที่แล้วก็นำข้าวมาหุง ระหว่างที่เรารอข้าวสุกก็มาถึงขั้นตอนการทำน้ำจิ้ม นำโถปั่นมา และใส่ขิงลงไปตามด้วยพริก กระเทียม รากผักชี และเต้าเจี้ยว จากนั้นเราจะใส่ซีอิ้วดำ และน้ำตาลทราย ใส่เกลือเล็กน้อย ต่อด้วยน้ำส้มสายชู และสุดท้ายก็คือน้ำซุปไก่ ที่นี้เราก็ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำน้ำจิ้มมาต้มให้เดือด ก็เป็นอันเสร็จ และเสริฟพร้อมข้าวมันไก่
เวลากินข้าวมันไก่ที่ร้านแห่งไหนก็ตาม เราจะสังเกตุเห็นน้ำซุปไก่จะมีชิ้นฟักต้มมาซดร่วมด้วย 1 ถ้วย ในที่นี้ประสงค์จะเพิ่มรสชาติให้เอร็ดอร่อยมากขึ้นอีก

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การปลูกไผ่กิมซุง


และวันนี้อาชีพหนึ่งที่น่าสนใจจะมาแนะนำนั่นก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ"การปลูกไผ่กิมซุง" ค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าแค่ต้นไผ่จะสามารถสร้างรายได้ ได้อย่างไร ต้องขอตอบว่าได้ค่ะ เพราะต้นไผ่สามารถนำมาแปรรูปได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น หน่อไม้ใช้ประโยชน์ต่อการบริโภคและขาย สร้างที่อยู่อาศัย ทำเครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่นตะเกียบ เครื่องดนตรี ของเล่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำเยื่อกระดาษ นำไปเผาทำเป็นถ่าน ใช้ประโยชน์ด้านการดูดกลิ่น หรือนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายชนิด ใช้ในอุตสาหกรรม จากที่เล่ามาก็จะเห็นได้ว่าไผ่หนึ่งกอเราสามารถใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนเลยละคะคุ้มค่าจริงๆเลย
เราได้เห็นประโยชน์ของต้นไผ่แล้วใช่ไหมค่ะ ทีนี่เรามาทำความรู้จักกับเจ้าต้นไผ่กิมซุงให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ ตอนนี้หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าทำไมจะต้องเป็นไผ่กิมซุง ไผ่กิมซุ่ง เป็นไผ่ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นไผ่ที่เจริญเติบโตและให้ผลผลิตเร็วมากอีกทั้งยังดูแลง่ายเมื่อเทียบกับไม้เศรษฐกิจชนิดอื่นอย่างยางพาราหรือยูคาลิปตัส เพราะใช้เวลาปลูกเพียงแค่ 6-8 เดือนก็สามารถเก็บหน่อมารับประทานหรือจำหน่ายได้


ไผ่กิมซุ่ง เป็นไผ่กลุ่มหน่อใหญ่ ลำต้นสูง 20 ถึง 25 เมตร ลำมีสีเขียว ปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว และให้หน่อไม้เมื่อต้นมีอายุ 6-8 เดือน จุดเด่นของไผ่พันธุ์นี้ คือ หน่อไม้ไม่มีขน เปลือกบาง เนื้อหนา น้ำหนักดี รสหวานกรอบ  การไว้ลำไผ่ต่อกอจะไว้เพียง 4-5 ลำเท่านั้น ส่วนการเก็บผลผลิตให้ได้คุณภาพดี ควรเก็บหน่อที่มีความยาวไม่เกิน 40 เซนติเมตร ถ้าใหญ่กว่านี้ หน่อจะแก่เกินไป และมีเสี้ยน ขายไม่ได้ราคา ข้อสำคัญ ระหว่างเก็บผลผลิต ไม่ควรปล่อยให้หน่อเจริญเติบโตเป็นลำไผ่ เพราะอาหารจะไม่ไปเลี้ยงหน่อ ทำให้หน่อไม้ที่เกิดมาใหม่ฝ่อได้
โดยวิธีการปลูกนั้นไม่ยาก สามารถปลูกได้กับทุกสภาพอากาศ ทุกสภาพดิน เพียงแค่คุณลงทุนซื้อต้นไผ่ ซึ่งราคานั้นไม่แพงมากเฉลี่ยนต้นละ 50 ถ้าซื้อมากก็จะยิ่งถูกลง (ส่วนใหญ่ก็จะซื้อมาขยายพันธุ์กันทีละเป็นร้อยๆ ต้น) และเมื่อปลูกได้ตามระยะเวลาที่กำหนด บางเจ้าที่ขายพันธุ์ไผ่มาก็จะขอรับซื้อคืนเลยก็มี


ซึ่งสามารถขายได้ทุกส่วนของต้น ไม่ว่าจะเป็นหน่อขายเป็นหน่อไม้ ลำไผ่ กิ่งแขนงเอามาตอนเพื่อขายต่อหรือขยายพันธุ์ได้อีก ส่วนราคาที่รับซื้ออยู่ที่ประมาณ 20-30 บาท/ก.ก. เป็นราคาส่งที่ตลาดรับซื้อนะค่ะ ส่วนราคาปลีกแล้วแต่พื้นที่ค่ะ ถ้าตัดจากต้นอายุ8เดือน การให้ผลผลิตโดยเฉลี่ย30-50ก.ก./ไร่/วัน และที่สำคัญสามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหรือปักชำได้ อายุเพียง6-8เดือนท่านก็สามารถขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายได้ ถือเป็นเรื่องง่ายเลยที่มีตลาดมารองรับเสร็จ ไม่ต้องวิ่งหาตลาดระบายของ แถมได้เงินคืนในระยะเวลาอันสั้นไม่ถึงปี........เห็นอย่างนี้แล้วใครที่มองหาอาชีพเสริม อยู่การปลูกไผ่กิมซุงก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้เสริมนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก rakbankerd.com ,pantown.com ,sewii.doae.go.th

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โรตี กรอบ


ทำหมูกรอบ


วิธีทำหมูกรอบ แบบมืออาชีพ โดย อ.ศักดิ์ดา มีลาภ





วิธีทำหมูกรอบ  แบบมืออาชีพ โดย อ.ศักดิ์ดา มีลาภ


การทำหมูกรอบ มี7ขั้นตอนโดย
ขั้นตอนที่1
เลือกหมูสามชั้นที่มีเนื้อเยอะและหนังต้องหนา  ส่วนใหญ่จะเป็นด้ายท้องหมู  หลังจากได้หมูมาแล้ว เอามาล้างน้ำและทาเกลือ ทำให้หมูมีรสชาติแล้วเกิดความเค็ม จากนั้นเอาไม้เสียบหมูกรอบ ทำให้เมือแขวนแล้วหมูจะไม่ขาดโดย เอาไปแขวนกับตะขออีกที่ แล้วจึงน้ำไปย่าง
ขั้นต้อนที่2
จากนั้นเอาหมูเอามาเข้าเตาย่าง โดยเตรียมเตาย่างให้ได้อุณภูมิ ประมาณ 280-300องศา จากนั้นจึงเอาหมูลงแขวนในเตาแล้วปิดฝา จับเวลา 1/2 ชม. ย่างให้ เพียงหนังหมูสุก
ขั้นตอนที่3
จากนั้นน้ำหนังหมูมาจิ่ม (สังเกตุว่าหนังหมูที่ผ่านการ อบแล้วตามเวลา หนังจะดูออกใสๆ) การจิ่มโดยใช้เหล็กแหลมจิ่มให้ทั่วที่สุด เอาแค่หนังไม่ต้องโดนลึกถึงเนื้อครับ การจิ่มหากจิ่มไม่ทั่ว หนังส่วนนั้นจะไม่ฟอง
ขั้นตอนที่4
เอาหมูที่เราจิ่มหนั่งจนทั่วทั้งหมดแล้ว มาลงถังย่างต่ออีกราว 1/2 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่5
แล้วเอาหมูขึ้นมาตากแดด สำหรับหมูอีกส่วนหนึ่ง เราจะทำหมูกรอบโดยการย่างหมูต่อไปเลย จนกว่าหนังหมูจะกรอบ เวลาที่ย่างไม่เท่ากัน แล้วแต่ความ หนาของหนังหมูแต่ละชิ้น โดยการเช็คดู จากสีหรือเสียงที่เราเคาะ หากดังป๊อกๆ กรอบๆแข็ง เป็นอันใช้ได้ หากมีเศษไหม้บ้างไม่เป็นไร ขูดออกใช้ได้    สำหรับหมูอีกชิ้นที่เราตากแดดหรือผึ่งลมไว้ ต้องใช้เวลา3-4ชั่วโมง แล้วจึงมาทอดด้วยไฟอ่อนๆ อีกที่หนึ่ง
ขั้นตอนที่5
จากนั้นเราหมูที่ผึ่งแดดแห้งแล้ว   มาทอดน้ำมันแค่ท่วมหนังท่วม ด้วยไฟอ่อน ทอดไปเรื่อยจนหนังแข็งเป็นอันใช้ได้ เคาะแล้วดังป๊อกๆๆ โดยการทอดแบบนี้เราสามารถเก็บไว้ในช่องฟรีส เวลาจะใช้ก็เอาหมูชิ้นนี้มาทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ หนังก็จะฟองออกเลย
ขั้นตอนที่6
เอาหมู ที่ทอดด้วยไฟอ่อนนี้แล้วไปแช่เย็นจนแห้งสนิท แล้วจึงนำมาทอดในวันรุ่งขึ้น
ขั้นตอนที่7
น้ำมันร้อนๆ เอาหมูลงทอดเลย น้ำมันไม่ต้องท่วมหมู การเอาหมูที่แช่เย็นไว้มาทอดการฟองจะดีขึ้นอีก สังเกตว่าฟองได้ที่แล้วคือเสียงทอดจะเงียบ เป็นอันใช้ได้ จากนั้นกลับเอาอีกด้านลง ทอดให้สุกเหลือเป็นอันใช้ได้ รวมเวลาทอดราว5-6นาที ขั้นตอนสุดท้ายนี้ไม่ต้องทอดนานเพราะหมูสุกจากการย่างอยู่แล้ว เท่านี้เราก็จะได้หมูกรอบ ตามต้องการ


ขอบคุณข้อมูลจาก อ. ศักดิ์ดา มีลาภ
และ คลิ๊ปวีดีโอ จาก Youtube.com

สูตรน้ำผลไม้ปั่นคลายร้อน อาชีพเสริมเพิ่มรายได้


สูตรน้ำผลไม้ปั่นคลายร้อน อาชีพเสริมเพิ่มรายได้สำหรับร้อนนี้

หน้าร้อนนี้คงทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดกับอากาศร้อน  มีวิธีคลายร้อนมาฝากกันค่ะ พร้อมด้วยอาชีพเสริมหน้าร้อนที่ทุกท่านสามารถทำเองได้ สูตรและเคล็บลับในการทำน้ำผลไม้ปั่นพร้อมด้วยประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมาฝากค่ะ ในหน้ารัอนนี้หลายคนหันมาให้ความสนใจเครื่องดื่มคลายร้อนมากขึ้น เช่น การดื่มน้ำเย็นๆ หรือประทานไอศครีม น้ำแข็งใส ก็ช่วยคลายร้อนได้อีกรูปแบบนึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีรสชาติทั้งหวานและเย็นจะช่วยให้คนที่รับประทานเข้าไปรู้สึกดีขึ้นจากอากาศร้อนได้ค่ะ
สูตรน้ำผลไม้ปั่น สมูทตี้ น้ำผลไม้สกัดเพื่อสุขภาพ น้ำผลไม้สกัด เรียกอีกอย่างก็คือน้ำผลไม้คั้นสดนั่นเองค่ะวันนี้เรามีสูตรและเคล็ดลับในการคั้นผักผลไม้สดให้ออกมาอร่อยและเต็มไปด้วยคุณค่ามาฝากค่ะ

สูตรน้ำสกัดบำรุงครรภ์

ส่วนผสมประกอบด้วย
1. แอปเปิ้ลแดง 1 ลูก  แอปเปิ้ลแดงมีจุดเด่นในเรื่องสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วยค่ะ
2. ผักใบเขียวเซอร์ราลี่ 2 ก้าน มีสรรพคุณหลายหลายที่สามารถช่วยบำบัดและบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ได้ดีโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ โดยมีสรรคุณทางยาคือช่วยลดความดันโลหิตและช่วยให้เจริญอาหาร รวมทั้งมีปริมาณโซเดียมต่ำ ดังนั้นคนที่เป็นโรคไตจึงสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดผลข้างเคียงใดๆ
3. บีทรูท 1 หัว ประโยชน์ของบีทรูทนั้นมีมากมายเลยหละค่ะ ทั้งอุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โปแตสเซียม เหล็ก อีกทั้งยังให้วิตามินซีสูง วิตามินเอ บี1และบี 2 สารสีแดงในหัวบีทรูท คือ เบทานิน (betanin) เป็นกรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง น้ำบีทรูทจึงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในด้านรักษามะเร็ง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาอื่นอีก เช่น ช่วยทำให้เลือดลมดี การไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวม บำรุงตับ เป็นยาระบาย เจริญอาหาร แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ และแก้อาการไอ
4. แครอท 1 หัว อุดมไปด้วยวิตามินเอ และเกลือแร่ช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิวและ เนื้อเยื่อ ช่วยยับยั้งความเสื่อมของ อวัยวะสำคัญของร่างกาย มีความเชื่อว่า แครอทช่วยรักษา โรคมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรค เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤษ์ อัมพาต ความดันโลหิตสูง ต้อกระจก และยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน เร่งการสร้างเซลล์ในแผลผ่าติด

วิธีทำน้ำสกัดบำรุงครรภ์
1. ให้นำผลไม้ทั้ง 4 อย่างมาล้างให้สะอาด
2. ปลอกเปลือกแครอท และหั่นบีทรูทออกเป็นครึ่งนึง
3. นำแครอท บีทรูท เซอร์ราลี่ และแอปเปิ้ลแดง ใส่ลงไปในเครื่องแยกกาก
4. พอได้น้ำสกัดสูตรบำรุงครรภ์ ก็ให้ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ สูตรบำรุงครรภ์นี้ยังช่วยต้านโรคมะเร็งได้ด้วยนะค่ะ